บางทีสกินแคร์ก็ซับซ้อนกว่าแค่ส่วนผสม

บางทีสกินแคร์ก็ซับซ้อนกว่าแค่ส่วนผสม

 

 

บางทีสกินแคร์ก็ซับซ้อนเกินกว่าแค่ส่วนผสม

บางตัวส่วนผสมดี๊ดี แต่กลับใช้ไม่ค่อยได้ผล ในขณะที่บางตัวส่วนผสมก็งั้นๆ แต่ใช้แล้วเห็นผลดีมาก

นอกจากเรื่องของวัตถุดิบ ก็ยังมีเรื่องของสูตรในการผสม / อัตราส่วน / ความเสถียร / ค่า pH สารพัด


เคยได้ยินหลายคนบอกว่า สกินแคร์ก็เหมือนอาหาร แม้จะใช้วัตถุดิบดี แต่ถ้าสูตรอาหารไม่ดี ไม่มีฝีมือ มันก็ออกมาไม่อร่อย แถมความชอบของแต่ละบุคคลก็ต่างกันออกไป คนนี้ว่าอร่อย แต่อาจจะไม่อร่อยสำหรับอีกคนก็ได้

แล้วผู้บริโภคอย่างเราจะรู้ได้ยังไง?? ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องยากเนอะ ถ้าไม่ชิมอาหารจานนั้นก็คงไม่รู้ว่าเราชอบหรือเปล่า บางคนอาจจะขอแค่อร่อยพอ ใส่อะไรมาบ้างก็ไม่สน บางคนก็เน้นเครื่องปรุงที่ดีต่อสุขภาพแต่รสชาติเหม็นเขียว (ความเห็นส่วนตัวคนไม่กินผัก 🤣🤣)

ส่วนผสมบางตัว เช่น Vit C / Ratinol ค่อนข้างจะปรุงยากหน่อย ก็พยายามเลือกจากแบรนด์ที่เราไว้ใจ ยิ่งถ้ามีงานวิจัยรับรองก็น่าจะพอเชื่อถือได้


มีหลายแบรนด์ที่ดีๆ แต่ไม่ได้ทุ่มเงินกับการตลาดมากเท่าเค้าเตอร์แบรนด์

แบรนด์ดังๆ บางทีทุ่มงบการตลาดมากถึง 50-70% แต่งบวิจัยแค่ 10-30% เค้าโฆษณาให้เราคิดว่ามันหรู มันแพง มันต้องดี ตั้งให้แบรนด์อยู่ระดับไฮเอนด์ ให้ลูกค้าทุ่มเงินให้ แต่พอมาลองมองในเชิงวิทยาศาสตร์แล้ว บางทีกลับได้ผลลัพธ์ไม่เท่าแบรนด์ที่ราคาไม่แพงมาก


การที่เราจะเลือกสกินแคร์จากความรู้สึกเวลาใช้ ไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าตัวไหนใช้แล้วชอบ ถึงแม้ไม่เห็นผล แต่มันหอม มันหรู ดูดี ก็โอเค บางคนยังชอบกินขนมจุกจิกเลย แม้จะรู้ว่าไม่ดีต่อสุขภาพก็ตาม
การที่เราเลือกสกินแคร์จากส่วนผสมก็ไม่ใช่เรื่องผิดเหมือนกัน เพราะงั้นไม่ต้องไปตัดสินความชอบของคนอื่นก็ได้

เห็นบางคนบอก เพื่อนมาเยาะเย้ยว่าใช้ไปได้ยังไง ยี่ห้อนี้ไม่ดี บลาๆๆๆ
อย่าเที่ยวไปทะเลาะกะใครเพราะเรื่องแบบนี้เลยเนอะ 😅😅
ซื้อมาแล้วก็ใช้ไปก่อน ค่อยๆ ปรับกันไป ไม่ต้องร้อนใจเทกระจาดของที่มีทิ้งหมดล่ะ เปลืองตังนะเออ

Leave a Reply